ข่าวดราม่า Esport เกม FPS ล่าสุดไปถึงไหนแล้ว

สรุปดราม่าร่างกฎหมาย ห้ามสตรีมเมอร์แคสต์เกมเกิน2ช.ม.

มีเรื่องดราม่าใหญ่ในวงการอี-สปอร์ตไทยแลนด์  ที่ทำให้คนในวงการรวมไปถึงนักแคสเกมที่ได้รับผลกระทบโดยตรง  ต้องออกมาต่อต้านร่างกฎหมายฉบับนี้  จนทำให้ #EsportsTH ติดเทรนด์ Twitch ซึ่งโดยตัวบทกฎหมายนั้นมีผลกระทบมากกับ  สตรีมเมอร์ในไทยเพราะจะถูกจำกัดการเล่นให้เหลือแค่ 2 ชั่วโมง  ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเพราะแต่ละเกมมีรูปแบบหรือบริบทที่ต่างกัน  ใช่ในมุมมองขององค์กรที่รวมกันนำเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้  จะค่อนข้างออกไปในทางห่วงใยเด็กและเยาวชน  กับการเล่นเกมที่ใช้เวลามากเกินถ้ามองว่าเป็นแค่การเล่นเกม  แต่ในอีกมุมของนักแคชเกม หรือ สตรีมเมอร์ และคนในวงการอีสปอร์ตนี้เขาว่านี้ก็คือกีฬาประเภทหนึ่ง  หรืออาชีพที่เขาใช้หาเงินเพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว  ทำเกิดการต่อต้านกันมากขึ้นเพราะคนออกกฎไม่ได้เป็นผู้ใช้  แต่คนที่ใช้ไม่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในการออกร่างกฎหมาย  เลยเกิดเป็นความไม่เข้าใจของทั้งสองผ่ายโดยจะเห็นได้ว่า  ในทวิสเตอร์นั้นก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย 

จุดเริ่มต้นของร่างกฎหมายมีที่มาอย่างไร

เป็นความร่วมมือของ 84 องค์กรเคลื่อนไหว ให้มีกฎหมาย ‘ควบคุมเกม’ ห้ามแข่งเกมรุนแรง ห้ามคนอายุต่ำกว่า 18 แข่ง eSports ซึ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้มีความพยายามจะออกกฎหมายเกี่ยวกับเกมหรือกฎหมายอีสปอร์ตอยู่เรื่อยๆ  โดยหนึ่งในหัวเรือหลักก็คือ สันติ โหลทอง นายกสมาคมอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย  จุดยืนของคุณสันตินั้นชัดเจนว่า จะต้องไม่มีการแบนเกมใดๆ เกิดขึ้นในประเทศไทย และต้องไม่มีกฎหมายที่แบนเกมเกิดขึ้นเป็นอันขาด  และกรรมาธิการในสภาก็เชิญคุณ คุณสันติ พูดคุยและชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องอีสปอร์ต เพราะมีคน ‘ร้องเรียน’ เรื่องราวบางอย่างเข้ามา

แต่ที่ทำให้ข่าวนี้แพร่ออกไปในวงกว้างก็เห็นจะเป็น ‘พี่แว่น’ หรือ ‘พี่บาส’ ชนิกนันท์ ทิพย์ไพโรจน์ ผู้ก่อตั้งทีม MiTH (Made in Thailand) ผู้ใหญ่ในวงการเกมและอีสปอร์ต  ก็ออกมาระบุว่าเขาได้รับเชิญให้ไปที่สภาในเรื่องนี้เช่นกัน 
“เขาจะออกกฎหมายควบคุมเกม ตอนนี้มี 85 องค์กรที่สนับสนุนกฎหมายนี้…ถ้าผ่าน การจัดแข่งเกมต้องขออนุญาต เขาห้ามแข่งเกม FPS เกมที่มันรุนแรงแบนหมด สตรีมเมอร์ห้ามสตรีมเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน เพราะมันมีเรื่องสุขภาพ” พี่แว่น ระบุ

และเรื่องนี้ก็เริ่มจาก สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน รวมถึงภาคีเครือข่ายหลายองค์กร ได้เข้ายื่นหนังสือเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 กับคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา โดยข้อเรียกร้องในเนื้อหานั้นว่า
“ผลักดันให้มีกฎหมายควบคุมเกมคอมพิวเตอร์และเกมออนไลน์ เพื่อกำหนดให้มีการจัดเรตติ้ง ควบคุมเวลา กำหนดอายุ และปกป้องคุ้มครองเด็กไม่ให้เข้าสู่การพนันออนไลน์ที่ปรากฎในเกมเกือบทุกเกมที่กำลังเล่นอยู่ในประเทศไทยเวลานี้”

และเมื่อ 25 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา กลุ่มภาคีเครือข่าย 84 องค์กร ได้ยื่นเรื่องกับ ประธานคณะ กมธ. การสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  เพื่อย้ำจุดยืนอีกครั้งกับการกำกับดูแลเกม  และในวันเดียวกัน นายกสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชนพร้อมทั้งภาคีเครือข่าย  ก็ได้เข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้อธิบายให้ฟังว่า อีสปอร์ตจะได้รับการประกาศให้เป็นกีฬาไปแล้ว  การจัดกิจกรรมทั้งหมดไม่ได้อยู่ในแนวทางที่เหมาะสม  และไม่ได้อยู่ภายใต้มาตราฐานหรือกฎเกณฑ์ไดๆ  จึงอยากรู้ถึงแนวทางของกระทรวงต่อวงการอีสปอร์ตไทย

สถาณการณ์ล่าสุดกับร่างกฎหมายฉบับนี้

อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวที่ไปอย่างรวดเร็ว  เกิดคำถามมากมายว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ทางด้าน ‘พี่แว่น’ ชนิกนันท์  ที่ได้เข้าไปประชุมที่สภาเพื่ออธิบายเกี่ยวกับวงการอี-สปอร์ตรวมถึง  ร่วมหาข้อสรุปและแนวทางวันจันทร์ที่ 13 กรกฏาคม 2563 นี้ หลังจากเพื่อการประชุมมาจากวันพุธกลางสัปดาห์  พี่แว่นได้กล่าวถึงการประชุมว่าที่กลัวกันว่าจะห้ามสตรีมเมอร์และแข่งเกมแนว FPS หรือว่าจะเป็นเรื่องที่ห้ามสตรีมเมอร์เกมเกิน 2 ชั่วโมงนั้น  จากการคุยกันในที่ประชุมให้สบายใจได้จะไม่มีการห้าม  แต่ยังคงจะต้องมีการควบคุมซึ่ง พี่แว่นที่เป็นตัวแทนไปในนามสมาคมอีสปอร์ตก็เห็นด้วย  ซึ่งหลังจากนี้จะมีการร่างกฎในการควบคุมเพื่อเสนอ  แต่ครั้งนี้กฎหรือข้อห้ามได้ที่เสนอของให้มี  ทางสมาคมอีสปอร์ตหรือตัวแทนเข้าไปร่วมให้ข้อมูลและข้อคิดเห็นที่มันจะไม่เกิดผลกระทบกับวงการเกม  เพราะจุดประสงค์ของทั้งผั่งผู้ปกครองและผั่งสมาคมอีสปอร์ตมีทิศทางอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ  ต้องการให้เกมและกิจกรรมเกิดความปลอดภัยกับเยาวชน  ซึ่งทางพี่แว่นก็เสนอว่าทางฝั่งอีสปอร์ตมีอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังหลายคน  ที่มีคนติดตามมากมายพร้อมที่จะสื่อสารกับเยาวชนที่ติดตาม  ในแนวทางที่ถูกต้องถ้ามาร่วมมือกันในการประชาสัมพันธ์ข้อปฏิบัติต่างได้

สรุปคือตอนนี้ให้สบายใจได้กับการเสนอร่างกฎหมายนี้ 

• ยังไม่มีการห้ามสตรีมเมอร์เกมเกิน 2 ชั่วโมง

• ยังไม่มีการห้ามจัดแข่งสตรีมเมอร์เกม แนว FPS ใดๆทั้งสิ้น  
• ยังไม่มีการห้ามเด็กต่ำกว่าอายุ 18 แข่งเกม  แต่จะมีต้องมีการควยคุมหลังจากการหารือแล้ว

แต่ข้อสรุปในที่ประชุมคือให้เสนอกฎหรือข้อห้ามต่างๆเพื่อควบคุมเกม  จะมีการเชิญสมาคมอี-สปอร์ตเข้าไปรับฟังและให้ข้อมูลด้วย  เพื่อดูข้อห้ามต่างๆที่จะออกเพื่อใช้ในการควบคุมไม่ให้มีผลกระทบกับวงการอี-สปอร์ตในบ้านเรา  และสตรีมเมอร์เกมทุกคนและต้องไม่มีผลกระทบกับเยาวชนด้วย