ชาวไทยกับกีฬามวยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่สมัยอดีตจนปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละยุคสมัย ก็จะมีนักมวยที่เป็นตำนานขวัญใจชาวไทยหลายคน แต่ในยุคนี้จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บัวขาว คือนักมวยที่นอกจากจะเป็นขวัญไทยชาวไทยแล้ว ก็ยังเป็นขวัญใจแฟนมวยต่างชาติด้วยเช่นกัน
เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม 2525 ส่วนสูง 174 เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม บัวขาวเริ่มฝึกซ้อมมวยที่สุรินทร์ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จากนั้นก็ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพ ในสังกัดค่ายมวย ป. ประมุข ใช้ชื่อในการชกมวยตอนนั้นว่า " ดำทมิฬ เกียรติอนันต์ " และด้วยความสามารถในการชกมวย ทำให้เขาเดินสายคว้าตำแหน่งแชมป์มากมาย จนกระทั่งได้แชมป์รุ่นเฟเธอร์เวทและไลท์เวท ที่เวทีมวยอ้อมน้อย ตอนอายุ 20 ปี ด้วยความที่เขาได้แชมป์เป็นจจำนวนมากบนเวทีมวยในเมืองไทย ทำให้หาคู่ชกได้ยากมาก เรียกได้ว่าเก่งจนไร้คู่ต่อสู้ เคยมีการจัดชกมวยแบบสองรุมหนึ่ง แต่เป็นการเข้าชกทีละคน ก็ยังเอาชนะบัวขาวไม่ได้ จนทำให้ผู้จัดต้องส่งเขาไปชกในรายการใหญ่เวทีต่างประเทศ โดยรายการต่างชาติที่เขาได้ชกก็คือ K-1 World Max 2004 จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว โดยที่การชกในรายการนี้เป็นการชกแบบทัวร์นาเมนต์ น๊อคเอาท์ หรือ แพ้คัดออก บัวขาวได้พบกับนักมวยต่างชาติหรือแม้กระทั่งแชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น แต่ท้ายที่สุดเขาก็เอาชนะมาได้ทุกคนและคว้าเข็มขัดแชมป์มาครองได้สำเร็จ ได้เป็นแชมป์คนไทยคนแรกและหลังเขาสามารถเข้าชิงรายการนี้สามปีติดต่อกัน คว้าแชมป์มาได้สองสมัยคือปี 2004 และ 2006 หลังจากนั้นเขาก็มีแฟนคลับในประเทศญี่ปุ่นและไทยเพิ่มมากขึ้น
บัวขาว ได้แจ้งเกิดในระดับสากลด้วยการเป็นแชมป์ K-1 สองสมัย ซึ่งจริงๆแล้วมีการจัดรายการแข่งขันที่ยกระดับมวยไทยให้เป็นสากลมากขึ้นมในถึงสามรายการคือ Thai Fight ,K-1 World Max และ Ultimate Fighting ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นมวยไทยที่มีการตั้งกติกาใหม่ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการชกให้เหลือ 3 ยก ชนะด้วยการน๊อก หรือคะแนนจะขึ้นอยู่กับการออกอาวุธแม่ไม้มวยไทย โดยวัตถุประสงค์แต่แรกของผู้จัดคือต้องการให้การชกมวยไทยรายการนี้ยกระดับขึ้นสู่สากลและให้ทั่วโลกยอมรับว่ามวยไทยดีที่สุด และต้องจัดที่เมืองไทยเท่านั้น ซึ่งจะออกแนวผสมผสานระหว่างมวยไทยและความบันเทิง และตอนนั้นบัวขาวก็กำลังโด่งดัง ตรงกับจุดขายของรายการไทยไฟท์ ที่ต้องการปรับมวยไทยให้ดูทันสมัย มีความเป็นกีฬาสากล นักมวยต้องดูเท่ห์เหมือนฮีโร่ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่เกียวกับมวยไทย บัวขาวที่กำลังโด่งดังก็ทำให้มวยไทยดูดี ค่าตัวสูง รายได้ดีและในที่สุดเขาก็กลายเป็นไอดอลให้เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจมวยไทย เขาได้เข้าร่วมการรายการไทยไฟท์ ปี 2011 เขาสามารถคว้าเข็มขัดแชมป์ไทยไฟท์มาครองได้สำเร็จ
ปี 2012 บัวขาวก็มีข่าวว่าหายตัวไปจากค่าย ป.ประมุข โดยเห็นได้จากการยกเลิกแผนการชกของบัวขาวในประเทศอังกฤษ ญี่ปุ่น และฝรั่งเศสทั้งหมด ต่อมากบัวขาวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมทั้งให้เหตุผลของการหนีออกจากค่ายเนื่องจากความไม่พอใจในเรื่องส่วนแบ่งค่าตัวของตนและนักมวยรุ่นน้องในค่ายเช่นกัน โดยหากเขายังขึนชกมวยไทยก็จะเป็นการผิดสัญญากับทางค่ายมวย แต่ในที่สุดเขาก็ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์เนื่องจากเป็นแชมป์เก่า และสามารถเอาชนะน๊อกนักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่สอง ที่แหลมบาลีฮาย และพูดทั้งน้ำตาว่าขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฏหมาย หากติดคุกก็ยอม
ปัจจุบันนี้เขาได้กลายเป็นหนึ่งในตำนานของวงการมวยไทยในเรื่องค่าตัวและความโด่งดังในวงการต่อสู้ของโลกด้วย เขาเป็นนักชกที่ผ่านสังเวยนรมาอย่างโชกโชนกว่า 20 ปี ซึ่งไม่ว่าจะขึ้นชกครั้งใด ค่าตัวแต่ละไฟท์ไม่ธรรมดาแถมแฟนๆตามชมหนาแน่น ซึ่งนับตั้งแต่เขาคว้าแชมป์ K-1 World Max 2004 ค่าตัวแต่ละไฟท์ก็เกินหนึ่งล้านบาทมาตลอด ซึ่งนับแต่นั้นมาก็เกือบจะหนึ่งร้อยไฟท์แล้ว! ด้วยมูลค่าค่าตัวและชื่อเสียงที่ดังทั่วโลก ทำให้บริษัทวายดีเอ็ม (ไทยแลนด์)จำกัด และ บริษัท SIX Network เปิดตัวโปรเจ็ค NFT (Non-Fungible Token ) ภายใต้ชื่อ BUAKAW 1 จำนวนการผลิตแค่ 10,000 ชิ้นทั่วโลก โดยค่าตัวของบัวขาวในศึก RWS ราชดำเนินเวิล์ด ซีรีย์ ที่บัวขาวชกโชว์ฟอร์มกับโคตะ นักชกชาวญี่ปุ่นหน้าหล่ออายุ 20 ปี ก็มีความคิดเห็นแตกเป็นสองฝั่งคือ การชกรายการนี้ เป็นการชกโชว์คู่พิเศษ ค่าตัวของบัวขาวและโคตะ รวมกันเป็นเงิน 4 ล้านบาท และโคตะ มีค่าตัว 2.5 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าบัวขาว ด้วยเหตุผลที่เขาประเมินว่าน่าจะคุ้มแน่นอนเนื่องจากแฟนมวยของโคตะ กลุ่มใหญ่จากญี่ปุ่นจะเดินทางมาเชียร์ หลังจากมีข้อถกเถียงเล็กๆ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้ออกมาชี้แจงว่า ไฟท์นี้ถือเป็นนัดประวัติศาสตร์สำหรับวงการมวยไทยและเวทีราชดำเนิน สนามเต็มจนต้องปิดการจองตั๋ว มีคนกลุ่มใหม่เข้ามาชมการถ่ายทอดสดและทั้งสองนักชกก็ได้แสดงศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ และค่าตัวที่มีข่าวก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งที่จริงแล้วค่าตัวของพี่บัวขาว มากกว่าโคตะมาก
ถึงแม้เจ้าตัวจะมีค่าตัวหลายล้านบาทต่อไฟท์ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เปลี่ยนไปก็คือยังคงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบติดดินเสมอมาตั้งแต่อยู่ที่บ้านเกิดในอำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ จบจนกระทั่งปัจจุบัน ถึงแม้จะเป็นนักชกไทยที่มีค่าตัวแพงที่สุดก็ตาม เขากลายเป็นนักมวยที่นำเงินค่าตัวมาต่อยอดสร้างธุรกิจด้วยการใช้ชื่อเสียงของตนเป็นจุดขายได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งปัจจุบันต่อให้บัวขาวไม่ต้องขึ้นชกเขาก็มีแหล่งรายได้จากธุรกิจของตัวเอง นั่นคือ บัวขาว วิลเลจ
บัวขาว ร่วมกับครูมวยคนแรกและเทรนเนอร์คนแรก ออกมาเปิดค่ายฝึกสอนมวยไทย ที่ดูแล้วจะเน้นไปทางค่ายมวยสปอร์ตฝึกซ้อมสำหรับนักมวยมากกว่าปั้นนักมวยในสังกัดของตัวเอง ค่ายได้ปิดตัวที่กรุงเทพโดยแจ้งว่าไม่มีสาขาใดๆและปัจจุบันย้ายไปเปิดสถานที่ฝึกซ้อมมวยแห่งใหม่ภายใต้ชื่่อ ค่ายมวยบัญชาเมฆ ที่อำเภอแม่แตง จังหวีดเชียงใหม่ และตอนนี้ก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งสำหรับนักเดินทาง เรียกได้ว่าคือ บัวขาว วิลเลจ ซึ่งถือว่าเป็นอาณาจักรที่มีครบครับบนเนื้อที่กว่าหนึ่งร้อยไร่ ห่างจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งเรียกได้ว่ามีครบครัน ไม่ว่าจะเป็นค่ายมวย ร้านอาหาร และห้องพัก พร้อมให้บริการ ซึ่งลูกค้าส่วนมากก็มักจะเป็นชาวต่างชาติ ที่อยากมาเรียนรู้มวยไทยจากค่ายนักมวยชื่อดัง ที่เหมือนกับการมาเที่ยวฮอลิเดย์ทริปฝึกมวย ท่ามกลางวิถีขีวิตธรรมชาติแบบที่คนชนบทเขากินและอยู่กันจริงๆ
เวลาเปิดทำการค่าย อังคาร-อาทิตย์ เวลา 8.30-18.00
ในส่วนของสถานที่พักผ่อนก็จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านจำหน่ายของที่ระลึก ( เสิ้อและอุปกรณ์มวย)ที่สามารถเข้าไปเช็คอินในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ ภูเขา สวน และท้องนา อีกทั้งยังมีรีสอร์ทไว้บริการให้ผู้เข้าพักได้เรียนรู้ชีวิตคนท้องถิ่นและความเป็นอยู่แบบพอเพียง มีการทำนา เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก และนำอาหารในฟาร์มมาทำอาหารทานเองได้
ในส่วนของสถานที่ฝึกซ้อมมวย ก็จะเปิดให้ทุกคนที่ต้องการออกกำลังกายและเรียนรู้การชกมวย สามารถเข้าไปใช้บริการได้
สำหรับใครที่อยากเดินทางไปท่องเทียวก็สามารถติดต่อได้ทางเพจ Buakaw Village หรือ [email protected]หากท่านใดต้องการของที่ระลึกหรือสินค้า ก็สามารถสั่งได้ที่ banchamekgym.com
ข้อเสนอพิเศษออนไลน์รายสัปดาห์,
ใส่อีเมลล์ของคุณด้านขวามือ
อย่าเป็นคนสุดท้ายที่รู้เกี่ยวกับโบนัสล่าสุด,
คาสิโนใหม่เปิดตัวหรือโปรโมชั่นพิเศษ เข้าร่วมกับเราวันนี้!