ระบบVpn สำหรับเกมมิ่ง

VPN (Virtual Private Network) ซอฟต์แวร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวในการออนไลน์ซึ่งเป็น เทคโนโลยีในการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์เสมือนโดยการเปลี่ยนเส้นทางการเชื่อมต่อของเราผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPNในประเทศอื่น ที่เชื่อมจากจุดใช้งานต้นทางของปัจจุบันบนอินเทอร์เน็ตไปยังเครือข่ายปลายทางด้วยความเร็วและมีระบบป้องกันความปลอดภัยระดับหนึ่งให้กับลูกค้าที่ใช้ VPN

VPN สามารถจะเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่เราส่งผ่านบนอินเตอร์เน็ตสำหรับเกมมิ่ง

• ป้องกันแฮกเกอร์และป้องกันการลดความเร็วของอินเทอร์เน็ท สำหรับเกมมิ่ง

เมื่อเราเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ข้อมูลที่ส่งเข้าออกทางอินเตอร์เน็ตของเรานั้นจะถูกเข้ารหัส นั่นหมายความว่าจะไม่มีใครสามารถติดตามได้ว่าเราทำอะไร แม้แต่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตISPของเราก็ไม่สามารถดูได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของเราไม่สามารถลดความเร็วอินเทอร์เน็ตของเราลงได้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งมันมักจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับการสตรีมหรือเล่นเกมเพราะการเล่นเกมมีความจำเป็นที่ต้องการส่งผ่านข้อมูลอย่างเกมออนไลน์ที่มีภาพกราฟฟิกระดับ3Dโดยเฉพาะ เช่น โปรแกรม 3 D’s Maxโปรแกรม Mayaเป็นต้น ซึ่งทำให้ได้ภาพมีสีและแสงเงาเหมือนจริง เหมาะกับงานด้านสถาปัตย์และการออกแบบต่างๆ รวมถึงการสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน หรือโฆษณาสินค้าต่างๆ เช่น การ์ตูนเรื่อง Nemo The Bug และ ปังปอนด์แอนิเมชัน และเกมต่างๆภาพที่เกิดขึ้นบนจอคอมพิวเตอร์ เกิดจากการทำงานของโหมดสี RGBซึ่งประกอบด้วย สีแดง Red, สีเขียวGreenและสีน้ำเงินBlue โดยจะใช้หลักการยิงประจุไฟฟ้าที่ทำให้เกิดการเปล่งแสง ของสีทั้ง 3 สีมาผสมกันทำให้เกิดเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรียกว่า พิกเซลPixelซึ่งมาจาก คำว่า Pictureกับ Element โดยพิกเซลจะมีหลากหลายสี เมื่อนำมาวางต่อกันจะเกิดเป็น รูปภาพ ซึ่งภาพที่ได้และใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มี 2 ประเภท คือ แบบ Rasterและแบบ Vectorเพราะการเล่นเกมในยุคปัจจจุบันนี้จึงต้องการใช้อินเทอร์เน็ททีมีความเร็วสูงมากๆเพื่อการเล่นเกมที่มีความเสถียรในการอัพโหลดดาวน์โหลดและการส่งผ่านข้อมูลภาพและเสียงที่ต้องใช้ความเร็วสูงๆอย่างต่อเนื่องหากผู้ให้บริการอินเทอร์แอบลดความเร็วก็จะมีผลต่อการเล่นเกม ดังนั้นนักเล่นเกมทั้งหลายต่างก็ต้องมองหาผู้ให้บริการ VPNที่ดีและยังมีความจำเป็นสำหรับ ผู้ที่ต้องการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับการสตรีมหรือเล่นเกม และการเข้ารหัสข้อมูลจะยังช่วย ป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเราได้ เมื่อเรากรอกข้อมูลอย่างเช่นรหัสผ่านลงในเว็บไซต์ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญหากเราใช้ WiFiสาธารณะ อาจมีแฮกเกอร์ที่มีขีดความสามารถเข้ามาเจาะเอาข้อมูลของเราได้เพราะว่าอาชญากรในโลกไซเบอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเราผ่านเครือข่ายสาธารณะได้ แต่ VPNทำให้เรามั่นใจได้ ว่าพวกเขาจะไม่สามารถถอดรหัสเพื่อดูข้อมูลเหล่านั้นของเราได้

• VPN ยังสามารถช่วยซ่อนหมายเลข IPได้อีกด้วย

เว็บไซต์และผู้ให้บริการต่างๆ อย่าง Netflixก็ใช้หมายเลข IP ของคนเพื่อระบุตำแหน่ง ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเราเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในอเมริกา เว็บไซต์จะเห็นหมายเลข IPของเราเสมือนว่าเราอยู่ในประเทศอเมริกา ซึ่งก็เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถดูหมายเลขIPที่แท้จริงของเราได้ พวกเขาจึงไม่สามารถระบุได้ว่าเราใช้งานจากในประเทศไหน นี่คือสิ่งสำคัญหากเราต้องการ Torrentหรือหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์เนื้อหา นั่นหมายความว่าเราสามารถเข้าถึงรายการทีวีหนังหรือเกมใดๆก็ได้ในทั่วโลกนี้และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระจากประเทศไทยหรือแม้แต่ประเทศอื่นๆและVPNจากผู้ให้บริการบางรายยังสามารถบล็อกเว็บไซต์ที่มีไวรัส โฆษณาหรือเครื่องมือติดตามได้อีกด้วย
ซึ่งเว็บไซต์ที่มีไวรัสสามารถดาวน์โหลดมัลแวร์และเครื่องมือติดตามมาลงในอุปกรณ์ของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัวได้ ดังนั้นใช้VPNจึงเป็นเครื่องมือที่จะช่วยป้องกันอุปกรณ์โดยการบล็อกเว็บไซต์เหล่านี้ ก่อนที่มันจะทำอันตรายต่ออุปกรณ์ของคุณได้และบาง VPNยังสามารถช่วยบล็อกโฆษณาและป๊อปอัพได้อีกด้วย ซึ่งมันจะช่วยไม่ให้โฆษณาที่มีไวรัสแพร่มัลแวร์ลงในอุปกรณ์ของเราได้ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้งานแพลตฟอร์มอย่าง YouTubeได้โดยไม่มีโฆษณารบกวนได้เลย

• VPN กับการ สตรีมมิ่ง

บริการสตรีมมิ่งอย่างเช่น Netflix and Huluใช้หมายเลข IPของเราเพื่อดูว่าเราเชื่อมต่อจากที่ไหน เมื่อพวกเขารู้ว่าเราอยู่ที่ไหนพวกเขาจะควบคุมเนื้อหาที่เราสามารถสตรีมได้ดังนั้น หากเราสามารถใช้ VPNเพื่อหลอกบริการสตรีมมิ่งเหล่านี้ให้คิดว่าเรามีการเชื่อมต่อจากอีกประเทศหนึ่งด้วยวิธีนี้เราสามารถเข้าถึงเนื้อหาเพิ่มเติมที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในประเทศไทย ตัวอย่างเช่นหากเราเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกาเราจะสามารถปลดล็อกเนื้อหาที่อยู่ใน Netflixในอเมริกาได้ 

• VPNเกี่ยวข้องกับที่อยู่ IPและ  IPคืออะไร?

เป็นที่อยู่ของโปรโตคอลอินเทอร์เน็ตที่อยู่ ของIPคือหมายเลขเฉพาะที่กำหนดขึ้นให้กับอุปกรณ์ทั้งหมดเช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์ เมื่อเราทำการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันนี้มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล 2เวอร์ชันซึ่งมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง
-IP เวอร์ชัน 4 (IPv4) คือจำนวนที่อยู่ที่เป็นไปได้ IPv4รองรับได้เพียง 4 พันล้านเท่านั้นเพราะใช้เพียง 32 บิต 
-IP เวอร์ชัน 6 (IPv6) ใช้ 128 บิต 

• IPสาธารณะ?

เราไม่สามารถออนไลน์ได้ หากปราศจากที่อยู่ IPสาธารณะเพราะการทำงานบนอินเทอร์เน็ทของอุปกรณ์ที่มากกว่าสองอย่างจำเป็นต้องรู้ที่อยู่จริง เพื่อที่จะได้ทำให้ผู้ที่จะส่งข้อมูลไปยังผู้ที่จะรับข้อมูล นั้นได้อย่างไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น เหมือนกับการที่เราส่งสินค้าไปให้ลุกค้าเราจำเป็นต้องรู้ที่อยู่สาธารณะจริงของลูกค้าที่เป็นรับสินค้านั้นที่เราส่งไปให้จะได้ถึงมือลูกค้าโดยจะไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้เลย
ในโลกออนไลน์อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันได้ทั้งหมดนี้จำเป็นจะต้องมีที่อยู่จริงของ IPสาธารณะ โดยที่อยู่ IPได้อนุญาตให้อุปกรณ์จำนวนสองเครื่องหมายถึง ผู้ส่งและผู้รับการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต ที่จะทำให้สามารถค้นหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้
เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ต หากไม่มีที่อยู่IPของอุปกรณ์ทั้งสองเครื่องก็จะไม่สามารถค้นหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้

• ที่อยู่-IPส่วนตัว?

คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องหรืออุปกรณ์ในเครือข่ายภายในบ้านของเราก็จะมีที่อยู่ IPที่เป็นตัวเลขส่วนตัวที่ไม่ซ้ำกันเพื่อที่จะทำให้การสื่อสารของเครื่องคอมหรือมือถือที่มีอยู่ในบ้านสามารถติดต่อกันได้โดยผ่าน เร้าเตอร์ WiFiเฉพาะภายในบ้านเท่านั้น ซึ่งจะทำให้เครือข่ายท้องถิ่นหรือบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ทที่อยู่ภายนอกบ้านเราไม่สามารถดูหรือสร้างการเชื่อมต่อใดๆได้
ซึ่งเร้าเตอร์ของเราจะกำหนดที่อยู่ IPส่วนตัวให้กับทุกสิ่งในเครือข่ายภายในบ้านของคุณผ่านโปรโตคอล DHCPโดยช่วงตัวเลขบางช่วงสามารถใช้งานได้เฉพาะกับที่อยู่ IPส่วนตัว

• IPของเรามันสามารถบอกอะไรได้หลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวของเราเช่น

-ตำแหน่งที่ตั้งของเรา 
-เมือง
-ประเทศ
-จังหวัด
-รหัสไปรษณีย์
-พวกเขาสามารถพบตำแหน่งของเราได้ และสามารถรู้ได้ว่ามีเว็บไซต์ใดบ้างที่เรากำลังเยี่ยมชม สิ่งที่เราสนใจ ไฟล์ใดที่เรากำลังทอร์เรน ผู้ที่เราติดต่อด้วย ฯลฯ จากนั้นก็จะได้มีการนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาที่ตรงกับเป้าหมายหรือ—ขายข้อมูลของเราให้กับบริษัทผู้ประมูลสูงสุด
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจึงมีข้อมูลต่างๆของเรามากมายและพวกเขายังจะทราบถึงชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรเครดิต รายละเอียดบัญชีธนาคาร ประวัติเครดิต และอาจมีข้อมูลอื่นๆอีกมากมาย
เช่นในประเทศอย่างออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร มีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะมีการเก็บบันทึกกิจกรรมการท่องเว็บของเราและยังได้ส่งมอบให้กับหน่วยงานของรัฐเป็นจำนวนมากโดยไม่จำเป็นต้องมีหมายค้นใดๆทั้งสิ้น หากเราเข้าดูเว็บไซต์ที่ไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยจาก HTTPSผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของเราจะสามารถดูหน้าเว็บที่เราไม่ได้เข้ารหัส ซึ่งเรากำลังเยี่ยมชมอยู่ได้
แม้ว่าเราจะเขาดูเว็บไซต์ที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วย HTTPSก็ตาม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของเราก็ยังสามารถตรวจสอบโดเมนที่เราเข้าชมได้ (แต่ไม่ใช่หน้าเว็บแต่ละหน้า)