ออกัา คว้าแชมป์โลก

ความฝันของพ่อ "เปิ้ล นาคร" เป็นจริง ได้เห็นลูกชาย "ออก้า" คว้าแชมป์เจ็ทสกีโลก

"ออก้า" ทำฝันของพ่อ "เปิ้ล นาคร" สำเร็จ ผงาดคว้าแชมป์โลกเจ็ทสกี รุ่นอายุน้อยที่สุด ด้วยวัยเพียง 10 ขวบ กับรายการ เจ็ทสกี เวิล์ด ซีรี่ย์ 2022 ณ เลค ฮาวาซู ประเทศสหรัฐอเมริกา 

ด้วยการทำผลงานเข้าเป็นที่ 1 ทั้งสามโมโต ในรุ่น Junior Ski 10-12 Stock ได้ที่ 1 ของโลก รุ่นเรือยืนเยาวชนอายุ 10-12 ปี ห้ามแต่งเครื่องยนต์ เป็นรุ่นอายุน้อยที่สุด และออก้ายังเด็กที่สุดที่คว้าแชมป์โลกเจ็ทสกีได้อีกด้วย ต้องบอกเลยว่าสมาคมเจ็ทสกีตัดสินใจถูก ที่เดิมพันกีฬาเจ็ทสกีรายการชิงแชมป์โลกครั้งนี้ กับเด็กที่อายุเพียง 10 ขวบในรุ่นที่อายุน้อยที่สุด และผลก็เกินคาดจนทางผู้จัดยกให้เป็น PERFECT GAME เพราะยังไม่เคยมีเด็กคนไหนสามารถเอาชนะได้ทั้งสามโมโตแบบ ออก้า 

ส่วนในรุ่น Pro Sport Salom น้องออก้าสามารถคว้าที่ 2 มาครองได้ และในรุ่น Junior Ski 10-12 Stock Lites ก็สามารถคว้า 8 ของโลก" นับว่าในวัย 10 ขวบน้องประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดแล้ว หลังจากนี้จะเป็นการป้องกันแชมป์ให้ได้นานที่สุด แต่ดูจากฝีมือและประสปการณ์ความนิ่งที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต กับอายุขนาดนี้ยังไปได้อีกไกลมากถ้าดูแลรักษาร่างกายดีๆ ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เพราะต่อจากนี้จะเป็นการป้องกันแชมป์ให้ได้นานที่สุด

ไทยคว้าแชมป์เจ็ทสกีโลก 14 รุ่นสนาม 2 ในดินแดนอเมริกา

การแข่งขัน "ดับเบิลยูจีพี วัน เจ็ตสกี เวิลด์ ซีรีส์ 2022" (WGP#1 World Series 2022) สนาม 2 - เวิลด์ ไฟนอล ตัวแทนทีมชาติไทยประกาศศักดาคว้าแชมป์มากที่สุดในโลกถึง 14 รุ่น 

ประเดิมคนแรกด้วย “พอช” กีรติกร ผิวงาม ในรุ่นเรือนั่งมือใหม่ เครื่องยนต์ 1100 ซีซี ห้ามปรับแต่งเครื่องยนต์ (Novice Runabout 1100 Stock) กับ รุ่นเรือนั่งมือใหม่ เครื่องยนต์ 1100 ซีซี ห้ามปรับแต่งเครื่องยนต์ (Novice Runabout 1100 Stock) ที่สามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์สองถ้วยแรกให้กับทีมนักกีฬาไทย 

ตามด้วย “เดอะอ๋อน” ธีระพงษ์ พิมพาวัตร รุ่นเรือนั่งกึ่งอาชีพอายุมากกว่า 35 ปี จำกัดการแต่งเครื่องยนต์ (Expert Veteran Runabout LTD) คว้าแชมป์เป็นคนที่ 3 และ “พูน” เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ รุ่นเรือนั่งอาชีพจำกัดการแต่งเครื่องยนต์ (Pro Am Runabout Ltd), คว้าแชมป์เป็นคนที่ 4 ของทีมชาติไทย 

แล้วก็เป็น “บอย” สุภทัต ฟูตระกูล รุ่นเรือนั่งกึ่งอาชีพ 1,100 ซีซี แต่งเครื่องยนต์ (Amateur Runabout 1100 Open) กับ รุ่นเรือนั่งอาชีพ 1,100 ซีซี แต่งเครื่องยนต์ (PRO RUNABOUT 1100 OPEN) เป็นอีกหนึ่งคนที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ให้กับทีมไทยได้

และทีมไทยก็มาได้สามแชมป์ติดจากสามคนคือ “ออย” อรรถพล คุณสา รุ่นเรือนั่งอาชีพ 1,100 ซีซี ห้ามแต่งเครื่องยนต์ (PRO-AM RUNABOUT 1100 STOCK), “มีโอ” ศศินา ผิวงาม รุ่นเรือนั่งกึ่งอาชีพหญิง 1,100 ซีซี ห้ามแต่งเครื่องยนต์ (AMATEUR WOMEN’S R/A 1100 STOCK), “ออก้า” ด.ช.นครา ศิลาชัย รุ่นเรือยืนเยาวชนอายุ 10-12 ปี ห้ามแต่งเครื่องยนต์ (JUNIOR SKI 10-12 STOCK) ทีมไทยกวาดไปแล้ว 9 แชมป์

ยังไม่หมดแค่นั้น คว้าเพิ่มอีกสามแชมป์จาก “นัท” ณัฐกร ภูภักดี รุ่นเรือนั่งอาชีพห้ามแต่งเครื่องยนต์ (PRO-AM RUNABOUT STOCK), ด.ช.ณัฐนันท์ กีนะพันธ์ รุ่นเรือยืนเยาวชนอายุ 13-15 ปี ห้ามแต่งเครื่องยนต์ (JUNIOR SKI 13-15 STOCK) “น้ำ” อรพรรณ ธีรพัฒน์พาณิชย์ รุ่นเรือนั่งอาชีพหญิง (PRO WOMEN RUNABOUT) เป็นการสร้างประวัติศาสตร์แล้วกับ 12 แชมป์จาก 12 รุ่นบนแผ่นดินอเมริกา

ปิดท้ายด้วยแชมป์อีกสองรุ่นอย่างสวยงาม จาก “เซ้นซ์” ธนวิชญ์ โมลี รุ่นเรือยืนอาชีพห้ามแต่งเครื่องยนต์ (PRO-AM SKI STOCK) และ “ตอง” ทศวนนท์ เผือกผ่อง รุ่นเรือนั่งสปอร์ตจับเวลา (SPORT SLALOM) สรุปในการแข่งขันครั้งนี้ทีมไทย คว้าแชมป์ในรายการนี้ไปถึง 14 รุ่นด้วยเป็นทีมที่คว้าแชมป์มากที่สุดในโลก

ประวัติของน้อง ออก้า 

น้องออก้า (ด.ช. นครา ศิลาชัย) เป็นลูกชายของ พ่อเปิ้ล นาคร และ แม่จูน กษมา เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2554 เวลา 09.09 น. ด้วยการผ่าคลอดแบบเลือกเวลาเกิดเอง ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยน้ำหนักแรกเกิดอยู่ที่ 3,010 กรัม มีพี่น้องด้วยกัน 4 คนโดยน้องเป็นคนที่สองเป็นครอบครั้วตระกลู ออ ได้แก่ เด็กหญิงศิศิรา ศิลาชัย (ออกัส), เด็กชายนครา ศิลาชัย (ออก้า), เด็กชายนครินทร์ ศิลาชัย (ออกู๊ด) และเด็กหญิงศิริกร ศิลาชัย (ออเกรซ) 

ซึ่งพ่อเปิ้ล เคยกล่าวใว้ว่าตอนน้องเกิดเป็นช่วงอุทกภัย เลยคิดจะตั้งชื่อว่า น้องอุ หรือ น้องอุทกภัย แต่ก็มาเปลี่ยนความคิดเสียก่อน เนื่องจากชื่อไม่เป็นมงคลจนมาเปลี่ยนชื่อให้เหมือนกับ ชื่อของวาฬเพชฌฆาต ว่า น้องออก้า และให้ชื่อจริงว่า "นครา" แปลว่า เมืองที่ร่ำรวยมั่งคั่ง ในปัจจุบันนี้น้องออก้ากำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury International School 

เจ็ทสกี กีฬาทางน้ำ ที่ใครก็รู้จัก

หากจะเอ่ยถึงกีฬาทางน้ำที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ทุกคนต้องนึกถึงเจ็ทสกีมาเป้นอันดับหนึ่ง เพราะจะเห็นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะไปเที่ยวทะเลภาคตะวันออก ภาคใต้ หรือจะเป็นทะเลสาบในภาคกลางหรือภาคเหนือ เราก็จะเห็นการเล่นเจ็มสกีการแข่งขันต่างมากมาย 

แต่อาจจะอยู่ในกลุ่มที่ค่อนข้างเฉพาะหน่อย นั้นก็เพราะหากจะเทียบกับกีฬาอย่าง โมโตจีพี ฟอร์มูล่าวัน หรือกีฬาความเร็วทางบกนั้นเราใช้รถในชีวิตประจำวันและมีโอกาสใช้ได้เยอะกว่า และเป็นที่นิยมไปทั้วโลกแต่กับเจ็ทสกีนั้นต้องลากไปเพื่อเล่นหรือแข่งในน้ำเท่านั้น ซึ่งราคาเรือเจ็ทสกีก็ไม่ได้ราคาถูกนักในสายตาคนทั่วไป หากแต่สามารถเช่าได้คนส่วนใหญ่จึงเช่นเอาตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะมีก็แต่กลุ่มคนเฉพาะที่เล่นกีฬาประเภทนี้

เสนห์ของกีฬาเจ็ทสกีก็ หากจะเทียบกับกีฬาทางบกก็คงเหมือนกับ กีฬามอเตอร์ครอส หรือ มอเตอร์ไซค์วิบาค เพียงแต่เล่นในน้ำ ความมันส์อยู่ที่การบังคับเรือให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับร่างกาย เพื่อสู้กับคู่แข่ง สู้กับเวลา และสู้กับคลื่นน้ำ และมีการแข่งหลายระดับ 

ตั้งแต่ในระดับ Beginner เป็นผู้ที่เริ่มต้นเล่นในกีฬาเจ็ทสกี ต่อมาจึงเลื่อนไปเป็นระดับ Novice นั้นคือนักกีฬาที่เริ่มมีประสบการณ์แล้ว จากนั้นจึงจะเป็นระดับ Expert ระดับที่ใกล้เคียงมืออาชีพ ถือว่ามีความรู้และประสบการณ์ในการเล่นเจ็ทสกีพอสมควร และระดับสูงสุดคือระดับ Pro เป็นระดับมืออาชีพสามารถถ่ายทอดความรู้ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง